เพื่อนรักหักเหลี่ยมมุม - เพื่อนรักหักเหลี่ยมมุม นิยาย เพื่อนรักหักเหลี่ยมมุม : Dek-D.com - Writer

    เพื่อนรักหักเหลี่ยมมุม

    งานนี้ถึงจะเป็นเก่าเพื่อนแก่กันก็เถอะ แต่ทว่ามันก็ทำให้ผมถึงกับต้องเซถลาอย่างรุนแรง เพราะเพื่อนกันดันมาหักเหลี่ยมมุม....อีกชิ้นงานเรื่องสั้นของ\"เชือกผูกลม\"

    ผู้เข้าชมรวม

    519

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    519

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  หักมุม
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ธ.ค. 48 / 14:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ผมมีเพื่อนผู้ชายที่เคยสนิทอยู่คนหนึ่ง  ย้ำเคยสนิท   เพื่อนของผมคนนี้มันชื่อบอย ส่วนผมชื่อว่านิ   เมื่อตอนที่เราเรียนอยู่ม.ต้น ผมมักจะไปไหนมาไหนกับมันตลอดเรียกได้ว่าเป็นคู่หูกับมันเลยเพราะเราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันห้องเดียวกันแถมบ้านของเรายังจะใกล้กันอีก เรียกว่าสนิททั้งที่บ้านและโรงเรียน ทุกวันตอนเช้าเวลาจะไปโรงเรียน ผมจะต้องเดินไปรอมันที่หน้าบ้านเพราะบ้านของผมอยู่ในซอยลึกกว่ามัน   เราจะไปโรงเรียนด้วยกัน    เวลาผมกับไอ้บอยนั่งรถเมล์ไปโรงเรียนผมมักจะอิจฉามันอยู่เสมอเพราะว่า บรรดาเด็กผู้หญิงโรงเรียนอื่น เอาแต่มองไอ้บอยเข้ามาจีบแต่มัน   ส่วนผมไม่เคยมีแม้แต่เพื่อนผู้หญิงซักคนเพราะเติบโตมากับเด็กผู้ชายอย่างเดียว โรงเรียนก็ชายล้วน ที่สำคัญผมหน้าตาไม่ดี แถมยังใส่แว่นอีกต่างหาก สู้ไอ้บอยไม่ได้มันทั้งหล่อทั้งขาว  เสียงหวานมีเสน่ห์แถมรวยอีกต่างหาก    ผมได้แต่อิจฉามันทุกครั้งที่มีผู้หญิงมาจีบมันต่อหน้าต่อตา  แต่ไอ้บอยมันก็ไม่เคยคบผู้หญิงเป็นแฟนซักคน  มันบอกแต่ว่าไม่ถูกใจ    ถ้าเป็นผมนะรับเป็นแฟนหมดแหล่ะ    
           ผมกับมันเป็นคู่หูกันจนเรียนจบม.ต้น   แล้วผมก็เข้าไปสอบติดโรงเรียนม.ปลายแถวบ้าน ส่วนไอ้บอยมันสอบไม่ติด ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหนของมันตอนนั้น เลยเข้าเรียนพาณิชย์  ผมนี่แทบไม่อยากจะคิดว่าหน้าตาอย่างมันพอเข้าไปเรียนพาณิชย์แล้วจะมีผู้หญิงมาติดมันกี่คน  ยิ่งคิดยิ่งอิจฉา     ช่วงแรกๆที่ผมเรียนม.ปลายบางวันพอเลิกเรียนผมก็จะแวะไปที่บ้านของไอ้บอย  ไปนั่งคุยนั่งเล่นกับมัน แต่พอนานเข้าเราต่างคนต่างก็ไม่มีเวลาเพราะต่างคนต่างจะต้องไปอยู่กับสังคมใหม่โรงเรียนใหม่เพื่อนใหม่  จากนั้นมาผมก็ไม่ค่อยมีเวลาเจอมันเลย  
           เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผมไม่ได้เจอหน้าไอ้บอย  จนมีอยู่วันหนึ่งผมกำลังเดินผ่านหน้าบ้านของมันตอนเช้าเพื่อจะไปโรงเรียน   ผมอยู่มัธยมห้าแล้วตอนนั้นพร้อมร่างกายของผมที่โตขึ้นกับแว่นหนาเตอะ  ขณะที่ผมกำลังเดินผ่านหน้าบ้านมันพอดีโดยไม่คิดว่าจะได้เจอมัน    
      “ นิ!!!!!”   ไอ้บอยมันกำลังเดินออกมาจากบ้านด้วยชุดนักเรียนพาณิชย์    มันเห็นผมก็เลยตะโกนเรียก  เช้าวันนั้นผมกับมันก็ได้เดินออกจากซอยเพื่อไปโรงเรียนด้วยกัน  ระหว่างที่กำลังเดินคุยกันอยู่นั้นผมสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของไอ้บอย ในตอนนี้ไอ้บอยมันหล่อขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อนมากและก็ขาวหน้าใสขึ้นเป็นกอง    เมื่อเดินไปถึงหน้าปากซอย   เพื่อจะไปขึ้นรถเมล์ไอ้บอยมันก็บอกว่าเพื่อนมันรออยู่ที่ป้ายรถด้วยสามคนเดี๋ยวมันจะแนะนำให้รู้จัก    พอไปถึงป้ายรถเมล์ผมก็พบว่าไอ้เพื่อนที่บอกว่ารอมันอยู่นั้นเป็นผู้หญิงหมดทั้งสามคน ที่สำคัญสวยน่ารักทั้งหมดด้วย     ผมเองก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้หญิงซะด้วยก็เกิดอาการเกร็ง ต่างกับมันที่แสดงท่าทางสนิทกับผู้หญิงทั้งสามอย่างถึงเนื้อถึงตัว   ผมว่ามันต้องมีซักคนในสามแน่นอนเลยที่เป็นแฟนของมัน     หลังจากที่ไอ้บอยแนะนำเพื่อนให้ผมรู้จักเราก็แยกย้ายไปโรงเรียน   เพราะอยู่คนละทางกัน
      เช้าวันนั้นผมนั่งรถเมล์อย่างใจลอยคิดถึงผู้หญิงทั้งสามคนนั้น แต่ละคนน่ารักกันจริงๆ ส่วนไอ้บอยก็อะไรจะโชคดีขนาดนั้นที่มีผู้หญิงสวยมารุมล้อม  ทำไมนะผมถึงไม่เกิดมาเป็นไอ้บอย………    
           จนเมื่อผมเรียนจบม.ปลาย ผมก็เข้ามหาลัยส่วนไอ้บอยผมก็ไม่ได้เจอมันเลย ก็เลยไม่รู้ข่าวคราวของมัน   ในการเรียนระดับมหาลัยครั้งนี้ของผมมันเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้มีเพื่อนผู้หญิงซักที  หลังจากที่ได้เรียนแต่โรงเรียนชายล้วนอยู่ตลอด   ผมจึงพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดูดีขึ้น   โดยอันดับแรกคือต้องทำตัวเองให้ขาวเสียก่อนเพราะผู้หญิงชอบผู้ชายขาวๆมันดูสะอาด และคงเป็นเรื่องฝังใจด้วยแหล่ะที่เมื่อนึกถึงความหล่อทีไรจะต้องนึกถึงไอ้บอยเป็นอันดับแรกทุกที   และมันก็เลยกลายเป็นบรรทัดฐานของผมไปเลยว่าถ้าจะหล่อต้องเลียนแบบอย่างไอ้บอย    ผมก็เลยจัดแจงหาครีมบำรุงผิวมาทา หายามารักษาสิว  ส่วนแว่นก็พยายามหาแว่นที่มันดูรูปทรงไม่เชย ไม่แก่      
          
           วันหนึ่งหลังจากที่ผมกลับจากงานรับน้องที่มหาลัย  เวลานั้นมันก็ดึกมากแล้วผมก็เดินเข้าซอยเพื่อกลับบ้าน   เมื่อถึงหน้าบ้านไอ้บอยผมก็หันเข้าไปในบ้านของมันเผื่อว่าจะเจอมันแล้วผมก็ได้เห็นว่ามันกำลังเดินเข้าบ้านกับผู้หญิงอีกสองคน    อะไรมันจะโชคดีขนาดนี้ ผมคิดขึ้นในใจเมื่อมาเปรียบเทียบกับตัวเองที่พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดูดีแค่ไหนก็ตามก็ยังไม่มีผู้หญิงมาติดพันซักคน   ได้แต่ร้องขึ้นในใจ
      อิจฉาไอ้บอยโว้ย!!!!!
        
            จนกระทั่งเรียนมหาลัยปีสี่เข้าไปแล้ว  ผมเองก็ยังไม่มีแฟนเพราะผู้หญิงทุกคนจะพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า    ทำให้ผมรู้ตัวดีว่าถึงแม้จะพยายามซักเท่าไรมันก็ไม่ได้ทำให้ผมดูดีหรือหล่อขึ้นมาได้เลย……..
            ความหล่อทำไมมันถึงได้เดินสวนทางกับตัวผมนักก็ไม่รู้   เพราะเมื่อผมเรียนจบ ปริญญาเรียบร้อยแล้ว ก็เข้าไปทำงานเป็นพนักงานในบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งมีแต่ผู้หญิงเป็นส่วนมาก     แล้ววันหนึ่งขณะที่ผมกำลังกลับจากทำงานผมก็ได้หันเข้าไปมองในบ้านของไอ้บอย   เห็นผู้หญิงผิวขาวคนหนึ่งซึ่งหันหลังอยู่กำลังรดน้ำต้นไม้  ถึงแม้ว่าจะเห็นเพียงด้านหลังแต่ก็มั่นใจได้ว่าต้องเป็นผู้หญิงที่สวยแน่ๆ เพราะอย่างไอ้บอยมันเลือกคบผู้หญิงอยู่แล้ว   และผู้หญิงคนนี้คงเป็นเมียของมันที่เอามาอยู่บ้านอย่างแน่นอนเพราะถึงกับรดน้ำต้นไม้ให้      
          
           อีกหลายๆวันต่อมาผมก็เห็นผู้หญิงคนนี้ขับรถเข้าออกบ้านของไอ้บอยอยู่เสมอ เป็นรถเก๋งสีแดงอย่างว่าไอ้บอยมันรวย มันก็คงมีรถให้แฟนขับเป็นธรรมดา    คราวนี้ผมกลับรู้สึกเฉยๆ   เพราะผมเองก็เริ่มที่จะปลงไม่คิดอิจฉามันเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว   เพราะโตเป็นผู้ใหญ่คิดได้แล้ว    
           แต่ผมก็ยังคงมักที่จะหันเข้าไปมองในบ้านของไอ้บอยอยู่เสมอเวลาเดินผ่าน   และเมื่อหันเข้าไปมองทีไรก็มักจะเห็นผู้หญิงคนนี้อยู่เป็นประจำ   แต่ไม่เคยเห็นไอ้บอยจนกระทั่งวันหนึ่ง ผมได้บังเอิญไปเห็นผู้หญิงคนนี้ที่ห้างสรรพสินค้าผมจึงแอบเดินตาม  แต่นิสัยเดิมที่อิจฉาไม่ได้กำเริบนะ  เพียงแค่ว่าสงสัยบางอย่างก็เท่านั้น    เพราะเธอกำลังอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งคนนั้นไม่ใช่ไอ้บอยเพื่อนผมอย่างที่ควรจะเป็นแต่เป็นฝรั่งหัวทอง   ผมจึงสะกดรอยตาม ทั้งคู่ต่างไปนั่งกินข้าวในร้านอาหารหรูในห้าง  นั่งคลอเคลีย  ทำเอาผมโกรธแค้นแทนเพื่อนเพราะอย่างน้อยผมกับไอ้บอยก็เคยเป็นเพื่อนรักกัน   แล้วแฟนเพื่อนมาทำอย่างนี้กับคนอื่นผมเองก็คงต้องรู้สึกไม่ดีเป็นธรรมดา  “นี่เพื่อนเราจะต้องมาเสียแฟนให้ฝรั่งหรือว่ะเนี่ย”      
            ตกดึกคืนวันนั้น ผมค้นเบอร์โทรศัพท์โทรเข้าไปที่บ้านของไอ้บอยเพราะไม่มีเบอร์มือถือของมัน  ผมแกล้งทำเป็นว่าคิดถึงเลยโทรมาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบพูดจาหว่านล้อม ถามเรื่องต่างๆนานาต่อกัน  สบายดีมั้ย  งานการล่ะเป็นยังไงบ้าง  เพื่อนๆติดต่อมาบ้างหรือเปล่า  วันหลังไปเจอกันกินข้าวกันบ้างดีกว่า ที่สำคัญที่สุดคือถามว่ามีแฟนหรือยังมันก็บอกว่ามีแล้วคบกันอยู่อย่างมีความสุขด้วยกำลังอินเลิฟสุดๆ  แล้วสุดท้ายเราก็ได้นัดกันไปกินข้าวเย็นในวันต่อมาเพราะมันก็อยากเจอผมอยู่เหมือนกัน  
            เย็นวันต่อมาหลังจากที่ผมเลิกงาน ผมก็ไปที่ห้างซึ่งผมนัดไว้กับไอ้บอยว่าจะกินข้าวด้วยกันและอาจจะต่อไปถึงสุราเมรัยที่เราสองคนไม่ได้ดวลแก้วกันมานาน   ระหว่างที่เดินเล่นอยู่ในห้างเพื่อรอให้ถึงเวลานัด   ผมก็เห็นอย่างไกลๆคลับคล้ายคลับคลาว่านั่นมันแฟนไอ้บอยนี่หว่า  เธอกล้าถึงขนาดนี้เลยเหรอเพราะเธอกำลังควงแขนฝรั่งหัวทองคนที่ผมเคยเห็นครั้งก่อน พากันเดินอย่างกระหนุงกระหนิงแทบจะกอดกัน    ผมคิดว่าถ้าไอ้บอยมันมาเห็นแล้วมันจะรู้สึกยังไง นัดมันไว้ที่ห้างนี้ซะด้วยซิ    ผมจึงตัดสินใจ”เอาล่ะว่ะวันนี้จะบอกไอ้บอยเรื่องของแฟนมันให้หมดถึงมันจะไม่เชื่อก็ตาม ถ้ามันจะรักแฟนจนไม่ฟังเหตุผลก็ให้มันรู้ไปว่ามันยังอยากจะโง่ให้แฟนสวมเขา”    
            ใกล้ถึงเวลานัดเต็มที  ผมไปนั่งรออย่างกระวนกระวายใจในร้านที่นัดกันไว้  หันซ้ายหันขวามองว่าเมื่อไหร่ไอ้บอยมันจะมาซักที     แต่หันไปมาที่หน้าประตูร้านคนที่เข้ามากลับไม่ใช่คนที่ต้องการให้มา  เพราะเธอควงแขนฝรั่งหัวทองเดินเข้ามามองหาคนในร้าน   “แย่ละซิไอ้บอยถ้ามันมาเห็นตอนนี้จะเกิดอะไรขึ้น”   ผมจึงหยิบโทรศัพท์กดเบอร์มือถือไอ้บอยที่ขอไว้เมื่อคืน    กะจะบอกมันว่าให้เปลี่ยนร้านเจอกัน  ผมกดโทรศัพท์แล้วรอสาย   แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือของใครซักคนในร้านดังขึ้นเป็นเพลงไอวิลล์เซอร์ไวฟ์ จนทำให้ผมและคนอื่นๆในร้านต้องหันไปมองหาต้นตอเสียง   พบว่ามันเป็นเสียงจากโทรศัพท์มือถือของผู้หญิงที่สวมเขาไอ้บอย    แต่ผมก็ต้องหันไปพูดโทรศัพท์เมื่อไอ้บอยรับสาย
      “ฮัลโหล ไอ้บอยเหรอ”
      “ว่าไงนิ”
      “ตอนนี้อยู่ไหน”  ผมถาม
      “อยู่ร้านแล้ว”
      “อ้าว นั่งอยู่ตรงไหน “
      “ยืนอยู่กำลังหาที่นั่ง”  พอมันตอบกลับมาเท่านั้นผมก็ลุกขึ้นกวาดสายตามองแล้วปะเข้ากับสายตาไอ้บอยที่กำลังมองหาผมเหมือนกัน  
      ไอ้บอยเพื่อนรักที่เปลี่ยนไป
      “นิ !!!!!” มันตะโกนเรียกผมซะลั่นร้านพร้อมจูงมือฝรั่งหัวทองเดินมาด้วย  
            ใครจะรู้ล่ะว่าคนโง่ที่สุดก็คือผมเอง ผู้หญิงที่เห็นอยู่บ่อยๆที่บ้านของไอ้บอย  ก็คือไอ้บอยเอง  ผมโง่ที่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนของเพื่อนและไม่คิดว่าเพื่อนจะเป็นผู้หญิงคนนั้น อยากจะตะโกนดังๆ  “เกิดอะไรขึ้นกับมัน เอาเพื่อนผมคืนมา!!!!”  
            ผมกับไอ้บอยและแฟนของมัน   พอได้นั่งพูดคุยกันอย่างเกร็งๆ ถึงได้สังเกตว่ามันไปฉีดหน้าฉีดคาง ฉีดอกยัดซิลิโคน  ตัดกรามลดเหลี่ยมมุม กรีดตา   จนหน้ามันเปลี่ยนไปยกเว้นแววตาที่เหมือนเดิม  และก็รู้ว่ามันกำลังจะวางแผนไปต่างประเทศกับแฟนหนุ่มหัวทอง  แฟนฝรั่งของมันจะออกเงินค่าผ่าตัดแปลงเพศให้  มันรู้ตัวว่าอยากจะเป็นผู้หญิงก็ตอนที่เรียนพาณิชย์นั่นแหละ เป็นตอนที่เราแยกกันเรียน    
            สรุปว่าคืนนั้นผมกลับบ้านอย่างงงๆ  ไม่ไปกินเหล้ากับมันต่อ  เพราะร้านที่มันชวนอยู่ที่สีลมไม่ต้องบอกว่าซอยอะไรก็น่าจะรู้    เฮ้อ...ทำไมนะไอ้พวกหล่อๆมันมักจะใช้ความหล่อผิดที่ผิดทาง สงสัยโลกนี้คงกำลังเปลี่ยนไปจริงๆ  

      ................จบ............
      ยังเรื่องสั้นอีกหลายเรื่องให้ได้อ่านกันอีกนะครับเพียงพิมพ์คำว่า เชือกผูกลม ลงในช่องค้นหานักเขียนเท่านั้นก็จะพบความบันเทิงของเชือกผูกลม

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×